วิธีจัดเก็บวัตถุดิบอาหาร การเตรียมวัตถุดิบอาหาร

การเตรียมวัตถุดิบอาหาร จัดเก็บอย่างไรให้ปลอดภัยและเก็บได้นาน

เคยไหมครับกับการที่เราเตรียมวัตถุดิบไว้ทำอาหาร คิดว่าเก็บไว้ในตู้เย็นอย่างดี แต่พอหยิบออกมาเตรียมจะใช้แม้ว่าหน้าตาจะยังดูดีแต่ก็เริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาทักทาย หรือบางครั้งก็ไม่ใช่แค่กลิ่นแต่สีสันก็เริ่มเปลี่ยนไปเสียแล้ว สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นปัญหากับคนปรุงอาหารทั่วไปครับ เพราะยิ่งสำหรับสายคลีนที่แม้วัตถุดิบเหล่านั้นจะยังไม่เสียและสามารถนำมาปรุงอาหารได้อยู่ แต่อาหารคลีนนั้นมักจะมีเครื่องปรุงแต่งน้อยและเน้นไปที่รสชาติและกลิ่นดั้งเดิมของวัตถุดิบ ลองคิดดูว่าเมื่อปรุงเสร็จแม้หน้าตาจะดูน่ากินแค่ไหน แต่กลิ่นก็กระแทกใจเกินกว่าจะกินจริงไหมครับ วันนี้พี่ล็อคจึงขอนำเอาวิธีการจัดเก็บวัตถุดิบมาฝากเพื่อน ๆ กัน มาดูกันเลย

 

วิธีการเก็บรักษาวัตถุดิบแต่ละประเภทให้ถูกต้อง

หลาย ๆ คนอาจคิดว่าวัตถุดิบต่าง ๆ แค่นำมาใส่ตู้เย็นที่ตั้งค่าอุณหภูมิต่ำ ๆ เข้าไว้ ยัดเข้าไปให้ปิดตู้เย็นได้ก็จบ แต่พี่ล็อคขอแนะนำว่าวัตถุดิบแต่ละประเภทนั้นต้องจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิที่แตกต่างกันจึงจะคงความสดไว้ได้นาน อาหารบางประเภทถ้าอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นเกินไปกลับหมดสภาพไวกว่าเดิมเสียอีกอย่างเช่นผักต่าง ๆ เป็นต้น โดยวัตถุดิบแต่ละประเภทควรแยกใส่ตามช่องต่าง ๆ ในตู้เย็นดังนี้

  • อาหารทะเล ปลาและไอศกรีม: วัตถุดิบประเภทนี้ต้องเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -18°C เพราะเป็นวัตถุดิบที่เสื่อมสภาพไวในอุณหภูมิสูง และยิ่งหากเป็นวัตถุดิบประเภทอาหารทะเล การแช่ไว้ในช่องฟรีสที่อุณหภูมิต่ำกว่า -18°C ยังช่วยฆ่าพยาธิที่หลงเหลืออยู่อีกด้วย
  • เนื้อสัตว์ หมู ไก่: ควรแช่ไว้ในช่องที่เย็นรองลงมา โดยช่องนี้จะมีอุณหภูมิที่ 0-5°C วึ่งจะช่วยให้เก็บเนื้อสัตว์ไว้ได้นานโดยที่เนื้อเยื่อไม่เสียสภาพจึงยังคงรสชาติของวัตถุดิบเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
  • เครื่องดื่ม ไข่ และขนมต่าง ๆ: วัตถุดิบประเภทนี้ควรเก็บไว้ในช่องเย็นธรรมดาของตู้เย็นที่อุณหภูมิประมาณ 5-7°C เพราะจะช่วยยืดอายุของวัตถุดิบอย่างเหมาะสม เช่น หากนำไข่ไปแช่ไว้ในช่องฟรีสก็จะทำให้นำมาใช้งานได้ยาก หรือหากนำขนมไปแช่ไว้ในช่องที่เย็นเกินไปก็จะทำให้ไขมันในขนมแข็งตัวจนเนื้อขนมแข็งกระด้างได้
  • ผักและผลไม้ต่าง ๆ: ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 8-10°C โดยปกติแล้วตู้เย็นแทบทุกรุ่นจะมีช่องสำหรับเก็บผักและผลไม้โดยเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งช่องนี้นอกจากจะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว ในตู้เย็นบางรุ่นยังมีระบบที่ทำให้เก็บความชุ่มชื้นสดใหม่ของผักและผลไม้ไว้ได้นานขึ้นอีกด้วย

นอกจากการเก็บวัตถุดิบในตู้เย็นให้ถูกต้องตามอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว การใช้ “กล่องถนอมอาหารก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้วัตถุดิบของคุณคงความสดใหม่ได้นานยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะป้องกันไม่ให้ผิวของอาหารสัมผัสลมเย็นจากตู้เย็นโดยตรงแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์จากภายนอกเข้าไปทำให้วัตถุดิบเน่าเสียเร็วอีกด้วย แถมยังทำให้การจัดเก็บวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นในตู้เย็นหรือในตู้กับข้าวเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดลำดับที่ซื้อมาก่อนและหลังด้วยการแปะโน้ตวันที่ทีซื้อมาไว้ที่กล่องอย่างง่าย ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บได้อีกเป็นเท่าตัวและยังทำให้หยิบมาใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้นอีกด้วยครับ

จัดเก็บวัตถุดิบได้ง่าย ๆ ด้วยชุดกล่องถนอมอาหาร LocknLock Chak Chak Container

การจัดเก็บวัตถุดิบสำหรับหนุ่ม ๆ อย่างพี่ล็อคนั้นแค่ได้ยินก็รู้สึกว่ายาก แต่แค่มีชุดกล่องถนอมอาหาร LocknLock Chak Chak Container ก็ช่วยให้การจัดเก็บวัตถุดิบของพี่ล็อคง่ายดายขึ้นอีกเยอะแถมยังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยจนแม่กวางน้อยยังเอ่ยปากชมเลยทีเดียว นั่นก็เพราะนอกจากกล่องถนอมอาหารรุ่นนี้จะดูดีตอนวางเดี่ยว ๆ แล้ว ยังถูกออกแบบมาให้วางซ้อนเข้ากันพอดีอย่างสวยงามอีกด้วย ตัวกล่องทำจากวัสดุ PP Food Grade แข็งแรง ทนทาน มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากสาร BPA มาพร้อมกับขีดวัดปริมาตรความจุอย่างชัดเจนจึงทำให้จัดเตรียมวัตถุดิบและคำนวณแคลอรีง่ายขึ้นอีกเยอะ ในส่วนของฝากล่องก็มีตัวล็อกครบทั้งสี่ด้านพร้อมซิลิโคนกันรั่วซึมจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีกลิ่นเล็ดลอดออกจากกล่องอย่างแน่นอน ทั้งยังมีให้เลือกซื้อมากมายหลายขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุดิบแต่ละประเภท ดังนี้

  • LTN310S3: เซต 3 ชิ้น ขนาด 230
  • LTN320S3: เซต 3 ชิ้น ขนาด 500
  • LTN330S3: เซต 3 ชิ้น ขนาด 920
  • LTN340S2: เซต 2 ชิ้น ขนาด 1.6
  • LTN350S3: เซต 3 ชิ้น ขนาด 500 (2 ชิ้น) + 2.7 L. (1 ชิ้น)
  • LTN360S3: เซต 3 ชิ้น ขนาด 920 (2 ชิ้น) + 4.4 L. (1 ชิ้น)

ซื้อกล่องถนอมอาหารมาเริ่มต้นจัดเก็บวัตถุดิบให้ดีแล้วชีวิตการเข้าครัวของเราก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะ สั่งซื้อง่าย ๆ กับ LocknLock ทุกช่องทาง ดูรายละเอียดที่: กล่องถนอมอาหาร Chak Chak

เช็คโปรโมชันล่าสุดกับเราได้ง่าย ๆ ทางไลน์ @Locknlockth  

add line
Back to blog

Leave a comment

Please note, comments need to be approved before they are published.